การแปลต้องดูจาก Tense ว่าเกิดการกระทำเมื่อไหร่ เกิดขึ้นแล้วหรือจะเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นแล้วในอดีตและยังคงดำเนินต่อไปในอนาคต จากนั้นจึงแปลให้ได้ความหมายที่กระชับได้ใจความและคามหมายครับถ้วน บางกรณีอาจดูเวลาของการกระทำได้จากคำขยายกริยา เวลาแปลอังกฤษเป็นภาษาไทยมักมีปัญหาเรื่องเวลา ประโยคในภาษาอังกฤษที่ใช้กาลต่างกันอาจแปลเป็นภาษาไทยเหมือนกันคล้ายกับว่าไม่มีข้อต่างกันเลย ทำให้แปลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
จงดูประโยคอังกฤษต่อไปนี้
1 He lived in Lampang for a year.
2 He has lived in Lampang for a year.
มีผู้คิดว่าประโยคทั้งสองมีความหมายคล้ายกัน และแปลต่างกัน ดังนี้
ก - เขาอยู่ลำปางหนึ่งปี
ข - เขาอยู่ลำปางมาหนึ่งปี
ค - เขาอยู่ลำปางมาแล้วหนึ่งปี
ง - เขาอยู่ลำปางมาหนึ่งปีแล้ว
จ - เขาได้อยู่ลำปางมาหนึ่งปี
ข้อแนะนำในการแปลเกี่ยวกับปัญหาเรื่องกาลมีดังนี้
1.ต้องเข้าใจว่า กาลในภาษาอังกฤษนั้นนอกจากจะบอกว่าการกระทำเกิดขึ้นเมื่อไหร่แล้ว การใช้กาลยังบอกให้ทราบถึงเรื่องอื่นๆอีกด้วย เช่น การคาดคะเน ความตั้งใจ เป็นต้น
2. ตีความให้ได้ก่อนว่าการใช้กาลนั้นๆในประโยคนั้นหมายความว่าอย่างไร
3. ในภาษาไทยควรใช้ข้อความอย่างไรจึงจะได้ความหมายตรงกัน
4. ถ้าจำเป็นต้องเติม ตัด หรือปลี่ยนแปลงคำขยายเกี่ยวกับเวลาอย่างไรต้องให้มีลักษณะและสำนวนเป็นไทยในรูปแบบที่เข้าใจกันโดยทั่วไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น