วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แปลนิยาย ตอนที่โปรดของรัช


บทที่ 6 ที่โปรดของรัช

            เช้าวันถัดมา เทย์มัวร์ นาดีน และรัช มาที่บ้านของผมและรีบขึ้นไปบนรถกับซาร่า พ่อกับแม่ และผม เดี่ยวเราจะไปที่พิพิธภัณฑ์ก่อนเป็นที่แรกแล้วค่อยไปที่ภูเขานะ พ่อพูดกับGPSในมือของเขา

            เราจะไปภูเขากันหรอครับพ่อ ผมถาม ผมโชว์สถานที่บนGPSให้พ่อดู และเครื่องมันก็พูดว่า ที่โปรดของรัช

            เป็นที่โปรดของหนูหรอรัช พ่อถาม

            ใช่แล้วคะ ซาร่าตอบ

            ดีเลย เดี่ยวเราจะไปที่นั้น แล้วก็ไปพักรถหาอะไรทานกันนะเด็กๆ

            พ่อกับแม่สนใจพิพิธภัณฑ์มาก  แต่พวกเราต้องการไปที่โปรดของรัชเป็นที่แรก ผมมองที่นาฬิกาข้อมือทุกๆห้านาที พวกเราจะไปถึงช้าไหม ภาพวาดนั้นจะถูกเอาไปแล้วไหม ผมคิด

            พวกเราไปภูเขากันตอนนี้เลยได้ไหมคะพ่อ ซาร่าถาม

            ได้สิจ๊ะ พ่อพูด

            พวกเรายิ้ม พ่อของผมจิ้มไปที่GPSสถานที่จะไปคือที่โปรดของรัช พวกเราขับรถออกจากพิพิธภัณฑ์มีรถไม่มากบนถนนเส้นนั้น

            บอกให้พ่อฟังเกี่ยวกับที่นั้นหน่อยสิรัช ว่าทำไมหนูถึงชอบที่นั้น พ่อถาม

            ที่นั่นเงียบมากเลยคะ รัชพูด

            พ่อหัวเราะ ทุกที่ในโอมานก็เงียบหมดแหละ พ่อพูด

            แต่มันน่าสนใจนะคะ หลายคนก็บอกอย่างนั้น มันน่าสนใจมากสำหรับพวกเรานะคะ รัชพูด

            ใช่คะพ่อ มันน่าสนใจมากๆเลยนะคะ นาดีนพูด

            ดีจัง แม่อยากจะไปเห็นที่นั้นแล้วละ แม่พูดพร้อมรอยยิ้ม

            พวกเราขับรถไปสี่สิบนาที ตามทางไม่มีต้นไม้ ตึก หรือผู้คนเลยมีเพียงแค่ภูเขาละถนนเท่านั้น ไม่นานเราก็เห็นตึกเล็กๆอยู่ด้านหน้า

            นั่นไงที่นั่นแหละ รัชตะโกน

            ที่นั้นหรอจ๊ะ แม่ถาม

            ที่นั่นมีอะไรน่าสนใจหรอ พ่อถาม

            พ่อครับหยุดรถก่อน ผมพูด

            พวกเราทุกคนลงไปจากรถ มันร้อนมาก คุณแจ็คสัน คุณนายแจ็คสัน มองไปที่ตึกนั้นสิคะ นาดีนพูด ตึกนั้นถึงแม้จะเก่ามาก แต่มันมีพลังงานไฟฟ้าในนั้นนะคะ

            มีตึกเก่าๆตั้งเยอะแยะอยู่บนภูเขาในโอมาน แต่ปกติพวกเขาไม่มีไฟฟ้าใช้  ทำไมตึกนี้ถึงมีละ ประตูก็เปิดไม่ได้

มันล็อกจากด้านใน มีเพียงหน้าต่างเล็กๆเท่านั้น พ่อมองเข้าไปข้างในตึก

            พ่อไม่เข้าใจ คือมันมีเครื่องปรับอากาศด้วยนะ ทำไมตึกเก่าแบบนี้ถึงมีเครื่องปรับอากาศละ พ่อถาม

            ผมรู้ครับพ่อ พวกเขาจำเป็นต้องทำให้ตึกนี้เย็นเพื่อจะได้เก็บภาพวาดไงล่ะครับ

            นี่พวกหนูกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่ แม่ถาม

            พวกเรามีเรื่องจะบอกแม่ครับ ผมพูด พวกเราเล่าเรื่องที่ได้ยินผู้ชายสองคนคุยกันที่ระเบียงและเรื่องที่งานนิทรรศการศิลปะ ในตอนแรกพวกเราคิดว่า ชายสองคนนั้นจะฆ่าใครบางคนแต่ในตอนหลัง  พวกเราก็เข้าใจถึงปริศนานี้ เรื่องทั้งหมดว่ามันเกี่ยวกับภาพวาดคะซาร่าพูด

            แล้วหนูได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังมาก่อนไหม แม่ถาม แม่รู้สึกไม่ดีเลยคราวหลังลูกจะต้องบอกแม่นะถ้ามีเรื่องที่สำคัญแบบนี้ แล้วลูกรู้เกี่ยวกับที่นี้ได้อย่างไร

            แม่รู้สึกไม่ค่อยดีนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมคิด

            คุณแจ็คสัน คุณนายแจ็คสันคะ พวกเราเข้าไปในตึกได้ไหม รัชถามอย่างเร็ว

            เอิ่ม แต่พ่อยังมีคำถามอีกนะ แต่ก็ได้เลย เข้าไปกันเถอะ พ่อพูด

            พ่อเดินเข้าไปถีบประตูจนตัวล็อกหักและและประตูก็เปิด มีกล่องใบใหญ่วางอยู่หน้าพวกเรา มันป็นภาพวาดหรือเปล่า

            โทรหาตำรวจสิโจ แม่พูดกับพ่อ พ่อเอามือล้วงเข้าไปในกางเกงแต่ไม่มีโทรศัพท์ พ่อกลับไปที่รถแต่ก็ไม่มีโทรศัพท์

            เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ก่อนหน้านี้ผมถือมันมาแล้วนะ พ่อพูด

            บางทีมันอาจจะอยู่ที่บ้านก็ได้นะ เอาของฉันไปโทรสิ แม่พูด

            พ่อคะ แม่คะ รถกำลังวิ่งมา ทันใดนั้นได้ซาร่าตะโกนขึ้น       รถคันสีดำอยู่ไกลลิบกำลังวิ่งมาบนถนนและตรงมาที่พวกเรา

            ไม่นะ นั้นมันพวกโจร เทย์มัวร์ตะโกน

            เราต้องรีบออกไปจากที่นี่แล้วละ เร็วๆ!” พ่อพูด

            เราจะเอาภาพวาดไปกับเราด้วยไหม ผมถาม

            ไม่ต้องเอาไป ทิ้งมันไว้ที่นี่แหละ หรือว่า พวกโจรจะตามพวกเรามาบนรถคันนั้น แม่พูด

            ไปที่รถกันเถอะทุกคน เร็วๆสิ พ่อตะโกน

            เมื่อพวกเราขับรถออกไป พ่อถามว่า ลูกเห็นสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดในGPSไหม

            มีที่หนึ่งที่ใกล้สุดอยู่ด้านหลังเราบนถนนนี้แหละ แม่พูด แต่พวกเรากลับไปที่เดิมไม่ได้แล้วนะ อีกที่หนึ่งอยู่ไกลจากนี้ 30 กิโลเมตร แต่ต้องขับผ่านสนามบินไปก่อน

            พ่อขับรถอย่างเร็ว แต่พวกเรายังมองเห็นรถคันสีดำวิ่งตามมาอยู่ มันไม่ได้จอดที่ตึกนั่นแต่มันตามเรามา พ่อจึงเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นและเร็วขึ้น พวกเราขับออกมาจากภูเขานั้น ขับผ่านโรงพยาบาล และบ้าน พ่อเริ่มชะลอรถ

            เลี้ยวซ้าย ขับไป 2 กิโลเมตร GPS พูด

            พวกเราใกล้จะถึงที่นั่นแล้วเด็กๆ พวกโจรมันไม่ตามมาแล้ว พ่อพูด

            และพวกเราก็ไม่ต้องไปสถานีตำรวจแล้วด้วย แม่พูด

            พวกเราอยู่ใกล้กับสถานีตำรวจแล้ว เราเจอที่สำหรับจอดรถ แต่แล้ว คุณแจ็คสัน ดูนั่น! พวกมัน! ในรถคันนั้น!” เทย์มัวร์ตะโกน รถคันสีดำอยู่ไม่ไกลนักและมันก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

            เร็วเข้าทุกคน ไปที่สถานีตำรวจ แม่พูด พวกเราวิ่งไปที่สถานีตำรวจ มีตึกเล็กๆอยู่ด้านหน้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจแค่คนเดียว  เขาตะโกนบางอย่างเป็นภาษาอาราบิก แต่พวกเราไม่หยุดวิ่ง เพราะพวกเรากลัว  และไม่นานพวกเราก็ยีนอยู่หน้าประตูสถานีตำรวจ รถคันสีดำคันนั้นก็ขับเข้ามาในตึกเล็กๆนี้ด้วย รถคันนั้นลดกระจกลงและพูดบางอย่างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วประตูรถคนนั้นก็เปิดออกและมีผู้ชายคนหนึ่งลงมาจากรถ ปรากฏว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของโอมานิ  แต่ปกติรถของตำรวจโอมานิจะเป็นสีฟ้านะ

            เขาถือโทรศัพท์อยู่ในมือ  พ่อจึงเดินไปที่เขา  ตำรวจพูดกับพ่อเป็นภาษาอาราบิก แต่พ่อและผมไม่เข้าใจ นายตำรวจคนนั้นพูดกับพ่อแบบโกรธมาก แต่เทย์มัวร์กับนาดียีนยิ้มอยู่และเทย์มัวร์ก็ได้เดินเข้าไปช่วยพ่อผม

            คุณทำโทรศัพท์หล่นที่พิพิธภัณฑ์ คนในรถนั่นเจอก็เลยจะเอามาคืนคุณ เขาขับรถตามหลังคุณเพื่อจะเอาโทรศัพท์มาคืนคุณ แต่คุณขับรถเร็วมาก ทำให้เขารู้สึกไม่ดี  คราวหน้าคราวหลังถ้ามีเด็กอยู่บนรถด้วยคุณต้องขับช้าๆเข้าใจไหม

            เทย์มัวร์หนูบอกเขาเกี่ยวกับภาพวาดสิ ที่เราขับรถเราเพราะพวกเรากลัว และตกอยู่ในอันตราย เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับรถคันนั้นเราไม่รู้ว่ามันคือรถตำรวจ บอกเขาสิ

             15 นาทีต่อมา ตำรวจยิ้มเมื่อพวกเขารู้เรื่องทุกอย่าง ตำรวจพาพ่อและพวกเราไปที่ภูเขา และตำรวจหนุ่มขับรถพาผม แม่ และพวกเพื่อนๆกลับมารอพ่อที่บ้าน  แม่ของผมโทรหาพ่อแม่ของเทย์มัวร์ นาดีน และรัช

 พวกคุณช่วยมาที่บ้านของฉันหน่อยคะ แม่พูด                   

ในตอนแรกพวกพ่อแม่ของเพื่อนผมโกรธมากเมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมด ที่หลังต้องล่าให้พ่อกับแม่ฟังทุกเรื่องเข้าใจไหม พ่อแม่ของเพื่อนผมพูด แต่ในตอนหลังพวกเขาชมว่าเก่งมากเลยจ๊ะเด็กๆ   3 ชั่วโมงต่อมา พ่อก็กลับมาถึงบ้าน พวกเราทุกคนถามพ่อพร้อมกันหลายๆคำถาม

            เดี่ยวก่อนนะทุกคน ใจเย็นๆ ขอผมพูดก่อน ตำรวจได้ภาพวาดไปเรียบร้อยแล้ว และก็ได้ตัวนายวิลเลี่ยมกับพวกเพื่อนแล้วด้วย ทุกคนดีใจที่ตำรวจพบภาพวาดแล้ว พวกเราจะต้องไปสถานีตำรวจในวันพรุ่งนี้ เพื่อเล่าทุกอย่างให้ตำรวจฟังตั้งแต่เริ่มต้น

            ตั้งแต่เริ่มต้นเลยหรอครับพ่อ ผมถาม

            นี่ผ่านมาเพียงแค่ 1 สัปดาห์ เอง ในตอนนั้นที่ผมมาที่นี่ ผมคิดว่าที่นี่มันน่าเบื่อ แต่สุดท้ายแล้วมันเป็นสัปดาห์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตผมเลย ผมแทบไม่อยากรอให้ถึงสัปดาห์ต่อไปเลยว่ามันจะตื่นเต้นขนาดไหน

แปลนิยาย ตอนแฟลตของคุณวิลเลี่ยม


บทที่ 5 แฟลตของคุณวิลเลี่ยม

ซาร่ารออยู่ที่ห้องของเธอ เธออยากจะได้ยินเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผมจึงเล่าเรื่องทั้งหมดที่ได้คุยกับท่านรัฐมนตรีให้เธอฟัง

            พี่คิดไปเองหรือเปล่าเรื่องที่พี่ได้ผู้ชายสองคนคุยกันในสวน เธอถาม

            ไม่นะ เทย์มัวร์ก็ได้ยินเหมือนกัน พี่กลับห้องละ

วันรุ่งเช้าผมไม่ไปที่สระว่ายน้ำ ผมไม่มีความสุข และผมก็ไม่อยากเจอ เทย์มัวร์ นาดีน และรัชด้วย

ทำไมพวกเราถึงเข้าใจผิดกันนะ ชายสองคนนั้นกำลังจะทำอะไร และใครล่ะคือคนที่พวกเขาจะฆ่า ข่าวในหนังสือพิมพ์เมื่อวานนี้ตั้งอยู่บนโต๊ะอาหารเช้า มีเรื่องเกี่ยวกับนิทรรศการศิลปะ ผมจึงเปิดอ่านนิทรรศการจะจัดขึ้น 10 วัน และภาพก็จะถูกส่งกลับไปที่ลอนดอน ภาพที่แพงที่สุดเป็นภาพวาดของผู้หญิงใส่เดรสสีดำ ผมมองไปที่จุดสีขาวและสีดำเล็กๆบนภาพ ทำให้ผมคิดถึงการสนทนาของชายสองคนนั้น

            เธอจะมาถึงเมื่อไหร่

            สุดสัปดาห์นี้แหละ จากอังกฤษมามัสแคท

            แล้วเธอจะอยู่ที่โอมานกี่วัน

            “10 วัน แล้วพวกเขาจะพาเธอกลับบ้าน

อย่างนั้นหรอ ชายคนนั้นพูดไปหัวเราะไป เธอก็จะไม่ได้กลับไปลอนดอน และจะไม่มีใครได้เจอเธออีกเลยไม่ว่าก็เป็นที่นี่หรือว่าบ้านที่อังกฤษก็ตาม

ใช่แล้วพวกนั้นไม่ได้หมายถึงผู้หญิง แต่หมายถึงภาพวาดของผู้หญิงต่างหากละ ผมใส่รองเท้าแล้ววิ่งไปที่สระว่ายน้ำ ซาร่า นาดีน และเทย์มัวร์อยู่ที่นั้น

            ฟังนะอย่างแรกเลยพวกฆาตกรหนะ ตอนนี้คือขโมย พี่แน่ใจหรอ พวกเราไม่อยากเข้าใจผิดอีกนะ ซาร่าพูด

ทันใดนั้นพวกเราก็ได้ยินเสียงรัช

            เจมี่ ซาร่า นาดีน เทย์มัวร์ เธอตะโกนเรียก และวิ่งมาที่พวกเรา หน้าของเธอเป็นสีชมพูและร้อนมาก

            มันคือภาพวาด เธอตะโกน

            พวกเรารู้แล้ว แต่ว่าเธอรู้ได้อย่างไรล่ะ นาดีนถาม

            แม่ของฉันโทรหาพ่อ แม่ไปที่งานนิทรรศการศิลปะเมื่อเช้านี้ บอกว่าโจรได้ขโมยภาพวาดไปแล้วเมื่อคืนนี้ มันเป็นภาพที่แพงที่สุดเลย

            พวกเธอคิดว่าภาพวาดจะอยู่ที่แฟลตของนายวิลเลี่ยมไหม นาดีนถาม

            ไปดูกันเถอะ ฉันเพิ่งเจอเขาไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง เทย์มัวร์พูด เขาขึ้นรถแล้วขับออกไป พวกเราไปที่สวนของทอมกันเถอะ เมื่อไปถึง  ในสวนเงียบมาก และแฟลตก็เงียบด้วยเช่นกัน พวกเรายืนอยู่ในสวนและมองขึ้นไปที่ห้องนายวิลเลี่ยม

            ปีนขึ้นไปกันเถอะ นาดีนพูด เอาโต๊ะมาวางตรงนี้นะ พวกเราจะได้ต่อเก้าอี้บนนี้แล้วปีนขึ้นไปที่ระเบียง

            ฉันปีนขึ้นไปเอง เทย์มัวร์พูด

            ไม่ได้มันสูงเกินไป ให้ฉันปีนขึ้นไปดีกว่าผมพูด

แค่สองสามนาทีผมก็ปีนขึ้นไปถึงระเบียง ผมมองตรงไปที่หน้าต่าง เห็นเก้าอี้ โต๊ะ โทรทัศน์ และมีประตูตรงไปที่ห้องมืดด้วย แต่ในห้องนั้นไม่มีภาพวาด

            เจมี่ นายเปิดประตูได้ไหม บางทีพวกนั้นอาจจะไม่ล็อกประตูก็ได้นะ เสียงนาดีนตะโกนมาจากสวนด้านล่าง

นาดีนพูดถูกพวกนั้นไม่ได้ล็อก  ผมเปิดประตู้เข้าไปในแฟลตง่ายมาก แต่ผมก็กลัวผมไม่อยากให้นายวิลเลี่ยมมาเจอผมที่นี่ ผมจึงรีบไปล็อกประตูหน้าห้อง ในห้องไม่มีอะไรน่าสนใจ ผมจึงเดินเข้าไปในห้องมืด มีกางเกงตัวสีดำอยู่บนเตียง ตัวสีขาวอยู่บนเก้าอี้ ผมเห็นบางอย่างเล็กๆสีดำอยู่บนโต๊ะ มันคือGPS ที่ติดบนรถยนต์ พ่อของผมเคยใช้มันตอนที่เดินทางมาโอมาน มันจะบอกว่าเลี้ยวซ้าย หรือเลี้ยวขวาตลอดการเดินทางบานถนน มันช่วยบอกทางไปที่ใหม่ๆและสามารถกลับมาที่เดิมได้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับมือใหม่หัดขับ หรือสำหรับขับไปที่ต่างๆ

            ผมเปิดเครื่อง แล้วมองไปที่รูปภาพบนหน้าจอ มันแสดงสถานที่ต่างๆในโอมานมากมาย คุณสามารถเพิ่มสถานที่ใหม่ๆลงไปได้อีกด้วย หลังจากที่คุณไปที่นั้นๆ และคุณก็สามารถใส่ข้อมูลลงไปได้เลยแล้วมันก็จะนำทางไปที่นั้นได้อีกครั้ง

            ผมมองไปที่สถานที่ที่นายวิลเลี่ยมใส่ข้อมูลไว้ในเครื่อง มีร้านกาแฟสองร้าน นิทรรศการที่โรงแรมสองที่ บ้านของอัลลี่ บ้านของจอร์จ และแฟลตกับบ้านของผม                                                                                                                               ส ทสยาห๊า แฟลตกับบ้านของผมหรอ ทำไมพวกมันถึงใส่ข้อมูลแฟลตกับบ้านของผมลงไปในนี้ละ ผมมองไปที่แฟลตของผม  ใช่แล้วละ มันเป็นต้องเป็นที่นี่ ผมมองไปที่บ้านผมอีกครั้ง มันเป็นภูเขา แต่ทำไมล่ะ ทำไมเขาถึงไม่ไปอยู่ที่นั่นละ  บนโต๊ะมีปากกาตั้งอยู่ ผมหยิบปกกามาแล้วรีบเขียนข้อมูลของบ้านของผมจากGPSลงบนแขนของผมแล้วรีบออกไปก่อนที่นายวิลเลี่ยมนั่นจะกลับมา

            ผมปีนออกไปทางระเบียงลงไปที่สวนและบอกกับคนอื่นๆเกี่ยวกับGPS

            แม่ของฉันมีGPSบนรถยนต์เดี่ยวฉันไปเอามาให้นะนาดีนพูด

            เธอกลับมาภายใน 5 นาทีกับGPSของแม่เธอ พวกเราใส่ข้อมูลบนแขนของผมลงไปในนั้น

            นี่มันก็ไม่ไกลมาก ห่างจาก มัสแคทแค่สามสิบหรือสี่สิบนาที เท่านั้นเองถ้าขับรถยนต์ไป เทย์มัวร์พูด

            มันไม่ไกลขนาดนั้นหรอก เพราะมันไม่มีตึกแถวนั้นเลย พ่อและแม่ของฉันจะขับรถไปที่ภูเขาสุดสัปดาห์นี้  บางทีอาจจะเป็นที่นั้นก็ได้นะ  เดี่ยวฉันจะไปถามพ่อกับแม่ดู ซาร่าพูด

            ให้เทย์มัวร์กับฉันไปด้วยได้ไหม นาดีนถาม

            ฉันด้วยๆ รัชพูด

            รถยนต์บ้านฉันก็คันใหญ่อยู่นะ เราน่าจะไปกันหมดแหละ ซาร่าพูด                 

 

 

แปลนิยาย ตอนโรงแรม


บทที่ 4 ตอนโรงแรม

แม่ครับ ผมจะออกไปเล่นแถวบ้านเทย์มัวร์ กลับประมาณ 3 ทุ่มนะครับ ผมบอกแม่

อย่ากลับมาช้าละ แม่พูด

แม่ครับ ผมไปเล่นแถวบ้านเจมี่ กลับประมาณ 3 ทุ่มนะครับ เทย์มัวร์บอกคนในบ้าน

อย่ากลับมาช้าละ แม่ของเขาพูด

ผมรู้ว่าการโกหกมันไม่ดี แต่พวกเราจะต้องไปหยุดพวกฆาตกรและช่วยนายกให้ได้ และสุดท้ายพ่อและแม่จะเข้าใจในสิ่งทีพวกเราทำ เมื่อตำรวจเจอตัวฆาตกรผมพูด

พวกเรานั่งนั่งแท็กซี่เข้าไปในโรงแรม งานเลี้ยงเริ่มทุ่มครึ่ง แต่พวกเรามาถึงโรงแรม หกโมงครึ่ง พวกเราต้องการไปถึงก่อนเวลา ที่นั่นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเยอะมากตรงบริเวณหน้าโรงแรม พวกตำรวจบอกให้แท็กซี่หยุด พวกเขาตรวจที่ท้ายรถรถและตรวจใต้รถ มีคนคุ้มกันมากมายที่ประตูโรงแรม หนึ่งในตำรวจพูดภาษาอาราบิกกับเทย์มัวร์ เขาก็ตอบ ตำรวจพยักและอนุญาตให้พวกเราเข้าไป

นายพูดอะไรกับเขาหรอ ผมถามเทย์มัวร์

ฉันพูดว่า พ่อจอดรถไว้ในนั้น พวกเราพักอยู่ที่โรงแรมนี้

ในโรงแรม มีเก้าอี้ดีๆมากมาย พวกเราเลือกนั่งอยู่ใกล้กับประตูซึ่งสามารถมองเห็นทุกคนที่เดินเข้ามาได้ชัด หลังจากนั้นไม่นานผู้คนจำนวนมากก็เริ่มทยอยกันมาในงานเลี้ยง พวกเรามองทุกคนอย่างระมัดระวัง แขกที่มางานเลี้ยงจะสวมเสื้อผ้าที่ดูดีที่สุด ผู้ชายส่วนใหญ่จะสวม ชุดยาวสีขาวกับกริชอันสวยๆสีเงิน

พวกเขาแต่งตัวแบบนี้เฉพาะวันที่สำคัญเท่านั้น เทย์มัวร์พูด

ภาพของนายกที่ปรากฏในอินเตอร์เน็ต ทำให้เรารู้ว่าหน้าตาเธอเป็นอย่างไร พวกเราดูที่นาฬิกาข้อมือตอนนี้ ทุ่มยี่สิบห้าแล้ว

นายกอยู่ไหนละ บางทีเธออาจจะไม่มาก็ได้ผมพูด

บางที่เธออาจจะตายแล้วก็ได้ เทย์มัวร์กระซิบ

ผมไม่พูดอะไร ทันใดนั้นผู้คนเริ่มเสียงดังและกรูไปยืนอยู่ที่ประตูของโรงแรม ชายสูงใหญ่คนหนึ่งเดินเข้ามาเป็นคนแรก เขาเป็นคนคุ้มกัน ตามมาด้วยแขกพิเศษของโอมานิ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง วัฒนธรรม และศิลปะก็มาถึง ได้เวลาที่จะไปพูดกับเธอแล้ว ผมรู้สึกกลัว แต่ไม่มีเวลาให้คิดถึงความกลัวแล้ว เทย์มัวร์และผมเดินตรงไปที่เธออย่างรวดเร็ว

นายกครับ นายกครับ ผมเรียก

คุณ ซัมเมอร์ เทย์มัวร์ตะโกน           คนคุ้มกันเริ่มเดินมาที่พวกเรา

คุณซัมเมอร์ครับ พวกเรามีเรื่องต้องคุยกับคุณ แค่สองสามนาทีเท่านั้นครับ ผมตะโกนเรียก           และตอนนี้คนคุ้มกันก็มายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเรา

คุณซัมเมอร์ มันเป็นเรื่องสำคัญมากเลยนะ เทย์มัวร์ตะโกน

คนคุ้มกันล็อกแขนของเราสองคนไว้

ท่านรัฐมนตรี เราจำเป็นต้องคุยกับคุณตอนนี้เลย ผมตะโกน

คนคุ้มกันคนแรกตรวจดูที่แขน ขา และหลังของผม ส่วนคนที่สองก็ตรวจที่เทย์มัวร์

ไม่มีอาวุธครับ คุณซัมเมอร์ พวกคนคุ้มกันพูด

นายกก็เดินมาที่พวกเรา ในตอนนั้นผมกลัวมาก แต่พวกเรามีเวลาคุยกับเธอแค่สองนาทีเท่านั้น

คุณซัมเมอร์ครับ เพื่อนของผมและผมนั่งอยู่ในสวนและได้ยินผู้ชายสองคนคุยกันที่ชั้นบน พวกเขาบอกว่าจะมาฆ่าคุณ

ฆ่าฉันหรอ พวกเขาพูดอย่างนั้นหรอ เธอถาม

ผมไม่รู้ครับแต่ผมได้ยินเขาพูดว่า จะมีผู้หญิงที่มีชื่อเสียงจากอังกฤษเดินทางมาในสุดสัปดาห์นี้ จะพักอยู่ที่โอมาน 10 วัน แต่เธอจะไม่ได้กลับไปอังกฤษ และจะไม่มีใครได้เห็นหน้าเธออีก

ท่านรัฐมนตรีพยักหน้า เธอมองไปที่หนึ่งในคนคุ้มกันซึ่งน่าจะเป็นคนที่สำคัญคนหนึ่ง ผมคิด และเธอก็มองมาที่พวกเราอีกครั้ง

พวกเขาได้พูดถึงชื่อฉันไหม เธอถาม

ไม่ครับ เทย์มัวร์และผมพูดพร้อมกัน

แล้วพวกเขาพูดถึงชื่อคนอื่นบ้างไหม เธอถาม

ไม่ครับ พวกผมตอบ

แล้วพวกเขาจะมาฆ่าฉันอย่างไร พวกเขาได้พูดไหม

ไม่ครับ พวกผมตอบ

พวกเขาไม่ได้พูดถึงการฆ่า แต่พวกเขาพูดว่า เธอจะไม่ได้กลับไปอังกฤษอีก เทย์มัวร์พูด

จริงหรอ นายกพูด หลังจากฉันกลับจากโอมานฉันก็จะไปประเทศจีน และฉันก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ 10 วันด้วย ฉันจะกลับพรุ่งนี้เช้า ฉันว่าเรื่องที่พวกเธอพูดมันไม่จริงหรอก พวกเธอน่าจะเข้าใจอะไรผิดนะ

เด็กเอ๋ยเด็ก คนคุ้มกันพูดและหัวเราะ

ขอบใจพวกเธอนะที่อยากจะช่วยฉันแต่คราวหน้าคราวหลังต้องระวังให้มากกว่านี้นะ ท่านรัฐมนตรียิ้มให้พวกผม มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่พวกเธอจะได้ยินการสนทนาแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ง่ายมากที่พวกเธออาจจะเข้าใจผิด ตอนนี้ได้เวลาที่ฉันต้องไปแล้วละ ราตรีสวัสดิ์นะจ๊ะเด็กๆ และเธอก็เดินจากไป

แต่ แต่ว่า…..”ผมพูดแต่เธอคงไม่ต้องการที่จะได้ยินอะไรอีกแล้ว คนคุ้มกันสองคนล็อกแขนพวกเราไว้จนขยับไม่ได้เลย พวกเขาถามว่า บ้านพวกนายอยู่ไหน และพาเราสองคนไปที่ประตูหน้าโรงแรม พวกเขาเรียกแท็กซี่ให้เรา ก่อนที่พวกเราจะขึ้นแท็กซี่เขาบอกกับเราว่า อย่ากลับมาอีกนะ

พ่อกับแม่ต้องฆ่าฉันแน่ๆเทย์มัวร์พูด

เราห้ามบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่เด็ดขาดนะ ฉันไม่อยากจะอยู่ที่บ้านเป็นเดือนๆ พ่อกับแม่ต้องโกรธฉันแน่ๆ ผมพูด

แต่เดี่ยวก่อนนะเจมี่  ทำไมเราสองคนถึงเข้าใจผิดละ  เราเข้าใจผิดได้ยังไงเทย์มัวร์ถาม

ในตอนนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

 

 

 

 

 

 

แปลนิยาย ตอนหญิงสาวปริศนา


บทที่ 3 หญิงสาวปริศนา

ชายฆาตกรอยู่ในมัสแคทแล้ว รัชพูดขึ้นในเช้าวันถัดมา เมื่อเราสองคนเล่าเรื่องให้ทุกคนฟัง  ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ผู้หญิงคนนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย พวกเราจะต้องปกป้องเธอ แต่พวกเราจะทำอย่างไรล่ะ เรื่องนี้มันมีปริศนานะ

            ใช่ มันมีปริศนา แต่พวกเรามาหาทางออกกันเถอะว่าจะทำอย่างไรผมพูด ผู้หญิงชาวอังกฤษคนหนึ่งกำลังจะมาที่มัสแคทในสุดสัปดาห์นี้ เธอเป็นคนมีชื่อเสียง พวกเราคิดว่าเธอจะพักอยู่ที่นี่ 10 วันแล้วถึงค่อยกลับอังกฤษ แต่กว่าจะครบ 10 วัน ชายสองคนนั้นคงจะไปฆ่าเธอแล้ว

            ผู้หญิงที่มีเสียงคนนั้นกำลังจะมาที่มัสแคทสุดสัปดาห์นี้หรอ พวกเราจะต้องหาช่วยเธอกัน  งั้นไปที่บ้านของเราเถอะนาดีนพูด เธอสองคนหาข้อมูลในคอมพิวเตอร์นะ เผื่อบางทีเธออาจจะเจอบางอย่างในอินเตอร์เน็ต ส่วนซาร่า รัจ และผม หาข้อมูลในหนังสือพิมพ์ เผื่อว่าจะมีบางอย่างเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นใน โอมาน ไทม์ ก็ได้

            แต่หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง พวกเราก็หยุดหา เพราะมันไม่มีข้อมูลอะไรทั้งจากในอินเตอร์เน็ตและจากหนังสือพิมพ์เลย

            เรื่องทั้งหมดในหนังสือพิมพ์มีแต่ข่าวของเมื่อวานและวันนี้ แต่ของสุดสัปดาห์นี้ไม่มีอะไรเลย นาดีนพูด

            รัจมองไปที่นาฬิกาข้อมือของเธอ แล้วพูดว่า ฉันต้องกลับบ้านไปกินข้าวเที่ยงก่อนนะ แล้วฉันจะลองถามพ่อกับแม่ดู เผื่อว่าพวกเขาอาจจะรู้ แล้วเจอกันที่สระว่ายน้ำตอน 5 โมงนะ

            ในช่วงเที่ยง ผมและน้องอยู่ที่บ้าน ไม่ออกไปไหนเพราะอากาศร้อนมาก พอ 5 โมง เราสองคนก็เดินข้ามถนนไปที่สระว่ายน้ำ เมื่อมาถึงสระน้ำก็เห็นรัจ นาดีน และเทย์มัวร์ มาถึงก่อนเราแล้ว พวกเขาก็ยิ้มเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง           

            ฉันถามพ่อกับแม่มาแล้วละ รัชพูด รัฐมนตรีว่าการกระทรวง วัฒนธรรม และศิลปะกำลังเดินทางมาจากอังกฤษและจะถึงในวันศุกร์นี้ พวกเขา 3 คนพูด

และเธอก็เป็นผู้หญิงด้วยนาดีนพูดอย่างตื่นเต้น                                                                  

มันต้องเป็นงานแสดงศิลปะที่ใหญ่แน่ๆเธอถึงได้มางานนี้ รัจพูด

งั้นพวกเราก็จะได้พบผู้หญิงปริศนาคนนั่นแล้วสินะ ดีไปเลย ผมพูด

แต่มันไม่ง่ายเลยนะที่จะปกป้องเธอ เทย์มัวร์พูด

พวกเราหุบยิ้ม เทย์มัวร์พูดถูก เราจะหยุดพวกฆาตรกร นั้นได้อย่างไรละ ไปเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่พวกเราฟังกันเถอะ พวกเขาจะได้ไปบอกตำรวจนาดีนพูด

            พ่อกับแม่ไม่เชื่อพวกเราหรอก ผมพูด          

            เจมี่พูดถูกแล้วละซาร่าพูด

            แต่พวกเราจะต้องทำอะไรสักอย่าง ฉันจะไปเล่าให้แม่ฟังเอง เทย์มัวร์พูด

            อีก 10 นาที แม่ก็จะกลับมาแล้ว พอแม่มาถึงพวกเราก็ไปเล่าให้แม่ฟัง

            พวกเรานั่งอยู่ในสวนหย่อมของบ้านเทย์มัวร์และนาดีน พวกเรารอแม่ของเขาจนพระอาทิตย์ตก แล้วจึงได้ยินเสียงรถพวกเรามองไปที่แม่

            แม่พวกเรามีเรื่องสำคัญจะบอกนาดีนและเทย์มัวร์พูด มันใดนั้นพวกเขาก็ได้หยุดชะงัก เพราะมีชายคนหนึ่งถือถุงใบใหญ่ 3 ใบ เดินตามหลังแม่มาด้วย

            โอ้ ว่าไงจ๊ะเด็กๆ นี่คุณวิลเลี่ยมนะ เขาพักอยู่ที่แฟลตของทอมจ๊ะ เขาเห็นแม่กับถุงที่อยู่บนรถ พอดีก่อนกลับแม่ไปร้านค้า แล้วก็ซื้อของมาเยอะมาก เขาก็เลยช่วยแม่ถือของมาจากรถ แต่ตอนนี้คงไม่ต้องแล้วละคะ เทย์มัวร์  นาดีน ไปเอาถุงของที่คุณวิลเลี่ยมสิจ๊ะ

            แม่ยิ้มให้นายวิลเลี่ยมนั่น ขอบคุณนะคะ คุณเป็นคนดีมากเลย แม่พูด

            ผมยินดีครับที่ได้ช่วยเพื่อนบ้านเขายิ้ม ไปละเด็กๆ เขาพูดก่อนจะกลับ

            ดีจังเลยที่มีเพื่อนบ้านดีๆแบบนี้ เมื่อเช้าคุณวิลเลี่ยมช่วยแม่ของหนูซ่อมรถด้วยนะ รัช เขาจะทักทายเพื่อนบ้านคนอื่นๆอยู่เสมอ คนอะไรจะดีขนาดนี้ แล้วเมื่อกี้เด็กๆมีอะไรจะบอกแม่หรอจ๊ะ

            เอ่อออ ไม่มีอะไรสำคัญหรอกครับเทย์มัวร์ตอบกลับอย่างเร็ว

            .ดีละ งั้นช่วยแม่ถือถุงพวกนี้หน่อยละกัน  หิวกันรึยัง อยากกินอะไรกันบ้าง แม่ถาม

            เมื่อแม่ของเขาเดินเข้าไปในแฟลต พวกเราก็เริ่มซุบซิบกัน

            เขาเป็นหนึ่งในฆาตรกรแน่เลย เทย์มัวร์พูด

            แสดงว่าฆาตกรคนนั้นก็เป็นเพื่อนบ้านที่แสนดีของเราอยู่ตอนนี้ละสิ ผมพูด

            แล้วเขาคือคนไหนละ ซาร่าถาม

            เขาคือคนที่อยากดื่มน้ำเย็นหนะสิผมพูด

            ถ้าอย่างนั้นเราก็ยังบอกแม่ตอนนี้ไม่ได้สิว่า เพื่อนบ้านที่แสนดีของเราคือฆาตกร เพราะแม่ต้องไม่เชื่อพวกเราแน่ๆ เทย์มัวร์พูด

            เขาพูดถูก นาดีนพูด ฉันรู้แล้วว่าจะทำอย่างไร  พวกเราไปพูดกับนายกกันเถอะ  ไปบอกเธอเกี่ยวกับฆาตกร

            แต่นิทรรศการจะเริ่มวันอาทิตย์นะ แล้วทำไมเธอถึงมาที่นี่วันศุกร์ละ ผมถาม

            พ่อบอกฉันว่า ที่นั้นจะมีงานเลี้ยงสำหรับ Sultan และแขกพิเศษ เธอรู้ไหมว่ามีแต่คนที่สำคัญๆมากันทั้งนั้นเลยในวันเสาร์นี้ เราจะได้เจอ ได้คุย และได้ดูรูปภาพที่พวกเขาเอามาโชว์ในงานด้วยนะ และแน่นอนว่านายยกจะต้องไปที่งานเลี้ยงนั้นด้วย

            ถ้าอย่างนั้นเราไปบอกเรื่องนี้กับนายกกันเถอะเมื่อเธอมาถึง ซาร่าพูด

            เอ่อ พวกเราคงไปคุยกับเธอที่สนามบินไม่ได้หรอก ฉันคิดว่าตำรวจและผู้ดูแลความปลอดภัยที่สนามบินจะต้องคุ้มกันอย่างดีแน่นอน เราคงเดินเข้าไปเฉียดไม่ได้เลยละ เทย์มัวร์พูด

            แล้วที่งานเลี้ยงละ พวกเราจะเข้าไปคุยกับเธอได้ไหม ผมถาม

            นิทรรศการศิลปะจัดขึ้นในโรงแรมใหญ่มากเลยนะ มันเป็นงานโชว์ภาพของชาว โอมานิ และ ชาวอังกฤษ พ่อและแม่ของฉันจะไปที่งานเลี้ยงด้วย รัชพูด

            แล้วพวกเราจะไปที่งานเลี้ยงกันอย่างไร ผมถาม คงเข้าไปไม่ได้หรอก เพราะที่นั้นมีแต่ผู้ใหญ่

            แต่พวกเราสามารถไปพูดกับเธอได้ก่อนที่เธอจะเข้าไปในงานเลี้ยงก่อนที่ฆาตรกรจะฆ่าเธอ ผมพูด