วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ฝึกทักษะการอ่าน

ทักษะการอ่าน
                ปัจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญอย่างยิ่งในการติดต่อสื่อสารกับคนทั่วโลก การเรียนรู้ภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อติดต่อสื่อสารให้เข้าใจแนวทางเดียวกันให้ชัดเจนและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทั่วโลก เพราะโลกปัจจุบันเป็นยุคแห่งสังคมข่าวสารและสาสนเทศเพื่อการสื่อสารภาษาอังกฤษจึงเป็นทักษะสำคัญที่ทุกๆคนจะต้องฝึกและเรียนรู้ รวมถึงการอ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยาสาร เป็นต้น ที่เราจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจทุกครั้งที่อ่าน พูดและเขียน
                ทักษะการพูด หรือ Speaking เป็นทักษะสำคัญในการฝึกฝนภาษาอังกฤษของคนไทยที่ยังใช้ได้ไม่ค่อยดีนักเป็นเพราะไม่ค่อยพูดจึงทำให้พัฒนาช้า มีทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ทักษะการพูดพัฒนาได้ คือการพูด พูด พูด ออกไปให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในช่วงแรกอาจจะดูผิดบ่อยนึกคำคัพท์ไม่ออกหรือยังเรียบเรียงประโยคถูกๆผิดๆบ้าง ก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ โดยเฉพาะถ้าถูกตำหนิหรือแซวจากคนใกล้ตัวให้บอกเขาไปเลยว่าเรากำลังฝึกฝนอย่างจริงจัง ถ้าเห็นว่าเรายังบกพร่องตรงไหนขอคำแนะนำด้วย
                จากที่ดิฉันได้อ่านข้อความข้างต้นข้างบนจบก็เริ่มปฎิบัติทันทีโดยการพูดกับเพื่อนใช้คำศัพท์ง่ายพูดกัน แต่ถ้าบางคำนึกไม่ออกก็จะใช้ภาษาไทยพูดทับศัพท์จึงทำการสนทนาภาษาอังกฤษภายในกลุ่มกลายเป็นเรื่องเฮฮา เพื่อนบางคนที่เป็นคนไทยแท้ส่วนใหญ่จะออกเสียงคำที่มีตัว “Y” ไม่ชัด เช่น คำว่า “Year” เยียร์ เพื่อนจะออกเสียงเป็น เฮียร์ นอกจากนี้ดิฉันและเพื่อนๆก็ตั้งกลุ่มแชทกัน โดยเพื่อนๆจะสนทนากันเป็นภาษาอังกฤษ และเมื่อคนไหนพิมพ์ผิด Grammar คนที่รู้ก็จะบอกและแก้ประโยคให้หรือบางครั้งไม่แน่ใจในการออกเสียงของคำศัพท์ ก็จะเกิดการถกเถียงกันในกลุ่ม แต่สุดท้ายก็จบการถกเถียงด้วยการถามพี่กูหรือว่าGoogle นั้นเอง การสนทนาในกลุ่มเพื่อนมีข้อดีคือได้สนทนาแบบไม่เขินอาย และข้อเสียคือ เวลาพูดหรือแชทแล้วใช้ประโยคที่ผิดไม่มีผู้รู้มาคอยแก้ไขแนะนำให้ตลอดเวลา
                สรุป การฝึกทักษะการพูดจะต้องมีความกล้ามีคำศัพท์ในหัวเยอะๆแต่แค่นี้ยังคงไม่พอจะต้องมีความเพียรขยันพูดออกเสียงบ่อยๆ และที่สำคัญคือ หากออกเสียงผิดหรือไม่มั่นใจในประโยคก็ควรจะวิ่งหาผู้รู้ เช่น Google การออกเสียง อาร์จารย์ ไวยากรณ์ หรือเจ้าของภาษาการใช้ประโยค เพื่อที่จะได้พัฒนาทักษะการพูดได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น